| คดีเกาะยาว มารีน่า                                   ด้วยคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๑๐   พฤศจิกายน ๒๕๔๙ ให้กรณีกลุ่มนายทุนได้ทำการบุกรุกที่ดินในอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา   โดยการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในการออกเอกสารสิทธิทับที่ดินป่าสงวนแห่งชาติโดยมิชอบ   และภายหลังจะมีการนำที่ดินบริเวณดังกล่าวไปพัฒนาในโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีน่า   เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ   พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๒๑ วรรคหนึ่ง (๒) และได้รับเป็นคดีพิเศษที่ ๑๕๕/๒๕๔๙                                    บัดนี้   คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้วและมีความเห็นเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จนถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วมีความเห็นดังนี้                                    ๑. เห็นควรสั่งฟ้อง นายบำรุง วงศ์ชุมพิศ , นายธวัช ตันติพิริยะกิจ , นายธรา   ตันติพิริยะกิจ , นายประสิทธิ์ ตันติพิริยะกิจ ผู้ต้องหาที่ ๑  ๔ ตามลำดับ ในความผิด   ฐานยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่าฯ   หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ   และได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่ายี่สิบห้าไร่ ,   เข้าไปยึดถือครอบครองป่าเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น   โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่ายี่สิบห้าไร่ , บุกรุกเข้าไปยึดถือ   ครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่   ตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ                                   และเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ผู้ต้องหาที่ ๑ - ๔   ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ,   แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ   ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน  เนื่องจากขาดอายุความ   สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องระงับลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๖)   ตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวน                                   ๒.เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง นายรังสี พิกุลผล ผู้ต้องหาที่ ๕   ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำผิดต้อตำแหน่งหน้าที่ ,   แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับ ใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน   ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่าฯ   หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ   เข้าไปยึดถือครอบครองป่าเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น บุกรุกเข้าไปยึดถือ   ครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครองหรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่   แต่เนื่องจากคดีขาดอายุความ   สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องระงับลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๖)   ตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวน                                 ๓.เห็นสมควรสั่งไม่ฟ้อง นายธีร ฉัตรสุวรรณ , นายเลียง พงษ์อรุณ (เสียชีวิต)   , นายอุเทน เกิดสมบัติ (เสียชีวิต) และนายสมบูรณ์ นาคตรีทศ (เสียชีวิต)   ผู้ต้องหาที่ ๖ ,๗ , ๘ และ ๙ ตามลำดับในความผิดฐาน   เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ โดยทุจริต   เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด เนื่องจากคดีขาดอายุความ และ   ผู้ต้องหาเสียชีวิตสิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องระงับลงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา   มาตรา ๓๙ (๑) (๖) ตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวน |