homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 
 

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  สภาทนายความ  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  สภาที่ปรึกษาฯและเครือข่ายฯรุดเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านในไร่  แนะจังหวัดพังงา  ที่ดินพังงาต้องรีบเพิกถอนเอกสารสิทธิ์มีปัญหาทับสภาพป่าชายเลน

วันนี้  23  กันยายน  2550  เวลาประมาณ  15.00  น.  นายสุทิน  บรมเจต  คณะทำงานสิทธิมนุษยชน  สภาทนายความ   นายภาคภูมิ  วิธานติรวัตร  สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  พร้อมด้วยเครือข่ายผู้ประสบภัยสึนามิและปัญหาที่ดิน  เครือข่ายที่ดินภาคใต้   อนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและป่า  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนและเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน  ประมาณกว่า 100  คน  หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมเวที  “  การปกป้องและสิทธิประชาชนในการจัดการที่ดิน  ภาคใต้  ”  ณ ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิค  รุดเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้านและแกนนำบ้านในไร่ หมู่  7  ต.นาเตย  อ.ท้ายเหมือง  จ.พังงา  เข้าดูสภาพพื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกบุกรุกและเปลี่ยนแปลงสภาพ  โดยผู้นำชุมชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้เสียกับกรณีพิพาทที่ดินในบริเวณป่าชายเลนแห่งนั้น  ซึ่งป่าชายเลนดังกล่าวทางชุมชนบ้านในไร่ได้จัดทำเป็นป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ  12 สิงหา  มหาราชินี  ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ขณะเดียวกันนายเชษฐ์  ทรายทอง  ผู้ใหญ่บ้านหมู่  7  บ้านในไร่  ได้เข้ามาในพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ  ตัดพ้อต่อว่าคณะชุมดังกล่าวที่เข้ามาในพื้นที่บ้านในไร่โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า  และยืนยันว่าพื้นที่ถูกบุกรุกและเปลี่ยนแปลงสภาพดังกล่าวอยู่ในเอกสารสิทธิ์นส.3ก.ของนายสมเกียรติ  ลีธีระ  ถึงแม้ว่านายวินัย  บัวประดิษฐ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้เข้ามาร่วมฟื้นฟูและปลูกป่าชายเลนในพื้นที่จริ งแต่ป่าชายเลนแปลงนี้ก็ไม่ได้เป็นป่าเฉลิมพระเกียรติ

นายด้าหนาน  หลีบำรุง    ได้กล่าวว่า  บริเวณป่าชายเลนดังกล่าวชาวบ้านได้ร่วมกันฟื้นฟูและปลูกป่าชายเลนมาหลายครั้ง   ตั้งแต่ช่วงที่ทาง นายอภิรักษ์  โกษะโยธิน  ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯสนับสนุนเงินทุน  1  ล้านบาทและอีกหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นจังหวัดพังงา  ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่  2  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  มูลนิธิศุภนิมิตรแห่งประเทศไทยและอีกหลายองค์กร  ชาวบ้านรู้สึกเสียใจจากสภาพป่าชายเลนที่ถูกทำลายอย่างนี้เหมือนกับปลูกกับมือแล้วทำร้ายด้วยเท้า  และที่สำคัญ พระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ  ได้ตรัสไว้อย่างชัดเจนว่า  “  ขอให้สภาพป่าของบ้านเมืองเรามีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ขออย่าทำลายและหน่วยงานที่รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด  ” ชาวบ้านในไร่  ในวันนี้รู้สึกดีใจที่หลายองค์กรและเครือข่ายประชาชนได้เข้ามาให้กำลังใจ และมาดูสภาพความเป็นจริงว่าป่าชายเลนบ้านนี้เมืองนี้เป็นอย่างไร  ถูกกระทำ  ทำร้ายและไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานราชการ

ด้านนายภาคภูมิ  วิธานติรวัตร  สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  กล่าวว่า  “  รู้สึกดีใจที่ชาวบ้านในไร่ส่วนใหญ่  ตระหนักและให้ความสำคัญกับการบุกรุกทำลายป่าชายเลน  และมีข้อเสนอว่าตามที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้สำรวจสภาพพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ว่าเป็นป่าชายเลนและเคยมีหนังสือคัดค้านการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่มีสภาพเป็นป่าชายเลน  โดยอาศัยอำนาจตามมติคณะรัฐมนตรี  15  ธันวา  2530  แล้วและเสนอให้สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา  สาขาท้ายเหมือง  เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ตามอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมาย  อีกทั้งการทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา  ยืนยันการคัดค้านการออกโฉนดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์       (  นส.3ก. )  ทั้ง    7  ฉบับ  ทางสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เห็นว่าแนวทางดังกล่าวถูกต้องแล้วขอให้ทางจังหวัดพังงา  สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา  ให้รีบเร่งดำเนินการ  ”

นายสุทิน  บรมเจต  คณะทำงานสิทธิมนุษยชน  สภาทนายความ   จะดำเนินการประสานไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้เร่งรัดกับกรมที่ดิน  กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทั้ง  7  แปลงดังกล่าวและดำเนินการฟ้องร้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกทำลายป่า  นายสุทิน  กล่าวต่อไปว่าทางด้านกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็สามารถดำเนินคดีกับผู้บุกรุกทำลายป่า ได้ตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย  หากหน่วยงานทั้งหมดยังเพิกเฉยการฟ้องร้องต่อศาลปกครองก็ยังเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับการแก้ปัญหาต่อไป

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: