| อธิบดีกรมทรัพยาฯ  ชี้ชัด พิสูจน์เป็นป่าชายเลนจริง ต้องยกเลิกโฉนด  23 ก.พ.52  จากกรณีที่ชาวบ้านบางคู ต.เกาะแก้ว  อ.เมือง จ.ภูเก็ต เดินทางไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 19 ก.พ.  เพื่อยื่นหนังสือขอให้ระงับและยุติการบุกรุกเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าชายเลนบ้านบางคู  ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยในจดหมายระบุว่า  ตามที่ชาวบ้านบางคู คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2  และกำนันตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต  ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร เมื่อวันที่  18 สิงหาคม ปีที่แล้ว เรื่องขอให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่ป่าชายเลนและดำเนินคดีกับผู้บุกรุกเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าชายเลน  ตามโฉนดเลขที่ ฉ38191 เลขที่ 87 จำนวนประมาณ 23 ไร่เศษ  และเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงข้างเคียงอื่นๆ จนถึงปัจจุบันยังมิได้ดำเนินการใดๆ ส่วนทางด้านสภาพความเป็นจริงนั้น  พื้นที่ป่าชายเลนมีสภาพที่สมบูรณ์โดยส่วนใหญ่ บางส่วนอยู่ในสภาพกำลังฟื้นตัว  ซึ่งเป็นแหล่งจับสัตว์น้ำและทำการประมงพื้นบ้านได้ดีของชุมชน  เนื่องจากผืนป่าชายเลนดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่ปลูกป่าของสำนักงานป่าไม้จังหวัดภูเก็ต  และหน่วยจัดการป่าชายเลนจังหวัดภูเก็ต เมื่อประมาณ 15  ปีที่ผ่านมาและเป็นแปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา  โดยหน่วยงานดังกล่าวเข้ามาดำเนินการฟื้นฟูปลูกเสริมป่าชายเลนจนทำให้มีป่าชายเลนที่หนาแน่นจนถึงปัจจุบัน  มีน้ำท่วมถึง และระบายได้ดีตามช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
                 เมื่อวันที่ 23 ก.พ.52 เวลาประมาณ 11.00 น.  นายสำราญ รักชาติ  อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเดินทางไปในพื้นที่บ้านบางคู  ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต  เพื่อสำรวจสภาพป่าชายเลนที่ถูกกลุ่มนายทุนอ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองและทำการถางไถป่าชายเลนดังกล่าว  ส่วนทางด้านพื้นที่บ้านบางคูมีนายเกื้อเกียรติ จิตต์เกื้อ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว   นายเจษฎา  แนบเนียร กำนัน  ต.เกาะแก้ว นางสมทรง  จันทร์หอม  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.เกาะแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกทำลายป่ายเลน  พร้อมด้วยสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้วและชาวบ้านบางคูรวม 30 คน  รอพบอธิบดีกรมทรัพยากรฯ  เพื่อพาลงพื้นที่และให้ข้อมูลสถานการณ์ตั้งแต่เริ่มพบเห็นการใช้รถแบ๊คโฮเข้าบุกรุกป่าชายเลนเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว                 นายสำราญ รักชาติ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังการสำรวจความเสียหายของพื้นที่ป่าชายเลนว่า  ได้รับการร้องเรียนจากชุมชนนี้ว่ามีการบุกรุป่าชายเลน  ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้น โดยประสานกับเจ้าหน้าที่ที่ดิน  และทางจังหวัดภูเก็ต ได้รับคำตอบว่า พื้นที่ป่าชายเลนตรงนี้อยู่ในโฉนด 5 แปลง  ขั้นตอนต่อไป จะนำโฉนดนี้ไปแปรภาพถ่าย  นำไปเปรียบเทียบกับพื้นที่ป่าเดิม ตามมติ ครม. 15 ธ.ค.2530  เรื่องนี่เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์   ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลนนี้ออกเอกสารสิทธิหลังปี  2532 จะมีขั้นตอนให้ทางกรมที่ดินยกเลิกโฉนดแปลงนี้   ภายหลังจากการให้สัมภาษณ์อธิบดีกรมทรัพยากรฯ เดินทางกลับ ส่วนทางแกนนำชาวบ้านบางคูยังอยู่ในพื้นที่เพื่อรอดูสถานการณ์ความเคลื่อนไหวไม่ให้มีการบุกรุกป่าชายเลนเพิ่ม   
 |