| เวทีสมัชชาสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้าน 2553   27  ก.พ. 53  สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านไทย  จัดเวทีสมัชชาสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านไทย นวัตกรรมการจัดการทรัพยากรของชาวประมงพื้นบ้าน  กับสถานการณ์และความท้าทายที่ต้องเผชิญ เมื่อวันที่ 27  ก.พ. 53 ที่ชายหาดท่าสูงบน ม.4  ต.ท่าศาลา  อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช องค์กรร่วมจัดประกอบด้วยสมาคมรักษ์ทะเลไทย  องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน(ARR)  มูลนิธิอันดามัน(SAN)  มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการฟื้นฟูชุมชนประมงพื้นบ้านอันดามัน(กระบี่)   OXFAM GB  ศูนย์กฎหมายและสิทธิชุมชนอันดามัน  โครงการดับบ้านดับเมือง-เรียนรู้อยู่ดีที่ปากใต้  คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช  และอบต.ท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งนายอภินันท์  เชาวลิต นายกองค์การบริหารตำบลท่าศาลา  เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และนายสะมะแอ เจะมูดอ   เลขาธิการสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยมีนางสมหญิง  เปี่ยมสมบูรณ์   อธิบดีกรมประมง ร่วมเป็นประธานเปิดงานสมัชชาสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้าน มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก  จากเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ 13 จังหวัด  งานสมัชชาฯ ครั้งนี้  มีกำหนดสามวันประกอบด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน เช่น กระบวนการสร้างข้อบัญญัติท้องถิ่น  การจัดการทรัพยากรประมงโดยชุมชนในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น เนื้อหาสถานการณ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชุมชน  เช่น ข้อระเบียบกฎหมายต่างๆ และสุดท้ายคือการระดมความคิดของผู้เข้าร่วมในการทำงานร่วมกันในอนาคต  ตลอดจนการเดินขบวนรณรงค์ในวันสุดท้าย     นายอภินันท์  เชาวลิต นายกองค์การบริหารตำบลท่าศาลา กล่าวว่า  ประมงพื้นบ้าน  ถือว่าเป็นชาวประมงที่ทำมากินวันต่อวัน อาหาร สด สะอาด อร่อย  นอกจากนี้ทุกชีวิตของชาวประมงฝากและแขวนไว้กับเรือลำน้อย  และต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิตที่บ้าน ท้องทะเล คือ ที่พึ่งสำหรับทุกคน  องค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา และพี่น้องชาวประมงที่นี่  จึงทำงานควบคู่กันมาตลอดในเรื่องการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง จนมีสโลแกนที่ว่า คืนชีวิต  ให้ทะเล  พื้นที่ตำบลท่าศาลา มีพื้นที่ติดชายทะเล  8  หมู่บ้าน จาก 15 หมู่บ้าน มีหน้าท่าติดชายทะเล 12 กิโลเมตร  ประชาชนในพื้นที่ร้อยละ 60 ประกอบอาชีพประมง ดังนั้น ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่ง คือ  หม้อข้าวหม้อแกงของคนที่นี่ แต่ปัญหาก็คล้ายๆ กับทุกพื้นที่ คือ ถูกเรือประมงพาณิชย์รุกราน  โดยเฉพาะ เรือคราดหอยลาย เรือลากคู่   ทำลายเครื่องมือประมงไปจำนวนมาก อีกทั้งทำลายทรัพยากรอย่างมหาศาล  โดยเรือเหล่านี้ล้วนเป็นเรือต่างถิ่น  จนในปีที่ผ่านมา  ได้ร่วมจับมือแข็งขันกับพี่น้องเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา  และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ  ชุดเฉพาะกิจศรีวิชัยของอำเภอท่าศาลาที่ต้องออกปราบปรามอย่างหนัก  และได้ทำงานร่วมกับหลายๆ ฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคนักพัฒนาเอกชน และประชาชน  จนสามารถออกข้อบัญญัติท้องถิ่นทางทะเลเป็นที่แรกของประเทศไทย  ทั้งนี้อธิบดีกรมประมงได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า  ปัจจัยสำคัญที่สุดในการที่จะบริหารจัดการทรัพยากรหาใช่ตัวทรัพยากรไม่ แต่เป็น คน  ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ต้องมีความรู้  ความ สามารถเท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณธรรม มีวินัย มีความซื่อตรง และที่ขาดไม่ได้  คือ รู้จักเสียสละ สิ่งเหล่านี้ดิฉันได้เห็นครบถ้วนอยู่ในตัวของทุกท่านที่อยู่ ณ  ที่นี้แล้ว ดิฉันจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้นำคุณสมบัติเหล่านี้มาช่วยกันในการพัฒนาและ แก้ไขปัญหาของชาวประมงพื้นบ้านให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป  งานสมัชชาฯ  ครั้งนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 1 มี.ค. 53 
 
 |