homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 
 

"ไตรรงค์" ปลุกผีเซาเทิร์นซีบอร์ด วาดฝันลงขัน 1 ล้านล.ปั้นเศรษฐกิจยาว 30 ปี

รองนายกฯใหม่ เปิดไอเดียสร้างเศรษฐกิจระยะยาว 1 ล้านล้านบาท ใน 30 ปี ข้างหน้า เปิดนโยบายปลุกผี "เซาเทิร์นซีบอร์ด-แลนด์บริดจ์" ระบุมีต่างชาติสนใจลงทุนให้เดินหน้าสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่ ขณะที่แทงกั๊ก พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทสร้างถนนปลอดฝุ่นเฟส 2บ่อน้ำ ลั่นไม่เอาโครงการเบี้ยหัวแตก

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการทำงาน ในฐานะที่ดูแลเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ ว่า การแก้ปัญหาระยะสั้นที่รัฐบาลชุดนี้ทำมาถือว่าถูกต้องจะไม่ เปลี่ยนแปลงอะไร จะเร่งต่อยอดการทำงานเพื่อวางรากฐานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะยาว โดยวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้กับประเทศ รวมวงเงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท ในช่วง 5 ปี 10 ปี และ 15 ปีต่อจากนี้ เพื่อวางรากฐานให้กับประเทศไทยในอีก 30 ปีข้างหน้าประกอบด้วย การฟื้นโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้ (เซาเทิร์นซีบอร์ด) ก่อสร้างสะพานเศรษฐกิจหรือแลนด์บริดจ์จากสตูล-สงขลา ระยะทาง 30 กม. พร้อมด้วยรถไฟ ท่อส่งน้ำมัน และท่าเรือน้ำลึกเพิ่มในฝั่งอันดามัน เพื่อขนส่งสินค้าไปยุโรปและตะวันออกกลาง เนื่องจากการใช้พื้นที่มาบตาพุดและแหลมฉบังใกล้เต็มแล้ว โดยจะใช้เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ประเทศไทยไม่ต้องลงทุนเอง มีหลายประเทศสนใจลงทุนให้ โดยเฉพาะประเทศที่ต้องการขายน้ำมันอย่าง คูเวต รัฐอาบูดาบี ของดูไบ รวมทั้งญี่ปุ่น และให้ไทยถือหุ้น 51% ซึ่งตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้เร็วๆ นี้ และคาดภายใน 5 เดือน จะออกประกาศเชิญชวนให้ต่างประเทศที่สนใจมาสำรวจการลงทุนได้

ขณะเดียวกัน ต้องการก่อสร้างรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ ระยะทาง 3,039 กม. เงินลงทุน 60,000-70,000 ล้านบาท เพื่อลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์ของไทย โดยเห็นว่าขนาดของรางรถไฟกว้าง 1 เมตรเหมาะสมและเหมือนกับเพื่อนบ้าน เช่น ลาว มาเลเซีย พม่า โดยระบบรางคู่นี้จะเชื่อมตั้งแต่จีนลงมาถึงเซาเทิร์นซีบอร์ด เป็นการเปิดเส้นทางขนถ่ายสินค้าใหม่ ช่วยลดต้นทุน และคนได้บริโภคสินค้าถูกลงพร้อมกับต้องการวางระบบชลประทานเพิ่มขึ้น ซึ่งใช้เงินลงทุน 200,000-300,000 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่เขตชลประทานในภาคกลางปัจจุบัน บอกว่ามี 24 ล้านไร่ แต่ที่สามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้งจริงมีเพียง 12 ล้านไร่เท่านั้น จำเป็นต้องทำเพิ่มอีก 11 ล้านไร่ และที่ว่าประเทศไทยมีฝนตกอุดมสมบูรณ์ แต่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้เพียง 5% ของฝนที่ตกลงมาทั้งหมด ภาคอีสานเก็บได้เพียง 3% นอกนั้นไหลลงแม่น้ำโขงหมด จึงจะต้องทำแก้มลิงในภาคอีสานหลายๆ จุด เพื่อบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มที่

นายไตรรงค์ยังได้กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.การกู้เงิน 400,000 ล้านบาทที่ยังอยู่ในสภาฯว่า หากจะกู้เงินก้อนนี้ ก็ควรจะนำมาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เพื่อวางพื้นฐานให้กับประเทศในระยะยาวมากกว่า เพราะการจะนำไปสร้างถนนไร้ฝุ่น สะพานข้ามคลอง จะไม่คุ้มที่จะทำให้รายได้ประชาชาติ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นตามที่ได้จ่ายเงินออกไป และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ก็วิจัยออกมาแล้วว่า ตอนนี้ถนนในประเทศมีจำนวนมากเกินเหตุแล้ว ขอให้หยุดและชะลอ เพื่อนำเงินมาปรับใช้กับโครงการขนาดใหญ่ 

"ที่ผ่านมารัฐบาลต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น รัฐบาลเร่งทำโครงการขนาดเล็กถูกต้องแล้ว เพราะเศรษฐกิจโลกทรุด นักท่องเที่ยวไม่มา ส่งออกติดลบเกือบ 30% คนไม่มีเงินในกระเป๋า ต้องอัดฉีดเงินเข้าระบบ ทำโครงการถนนไร้ฝุ่น บ่อน้ำ มีโกงกันบ้าง แต่เศรษฐกิจพยุงขึ้นมาได้ ตอนนี้เศรษฐกิจโลกรับไม้จากเรา จึงหมดความจำเป็นต้องทำโครงการเร่งด่วน หากจะกู้อีก 400,000 ล้านบาทมาทำโครงการเร่งด่วนอีกผมไม่ยอม จะทำแบบเบี้ยหัวแตกไม่ได้ แต่หากกู้มาลงทุนอีก 30 ปี ให้ลูกหลานอยู่สบายผมเห็นด้วย" 

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า จะตั้งคณะที่ปรึกษาขึ้นมาศึกษาข้อมูลต่างๆ ตามที่ตนวางนโยบายไว้ 6 คณะ จะพยายามไม่ให้เกิน 45 คน หรือคณะละ 6-7 คน เช่น ได้นายตีรณ พงษ์มฆพัฒน์ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ดูภาพรวมโครงสร้างอุตสาหกรรมทั่วประเทศ นอกจากนั้น ยังได้ขอให้ กระทรวงการคลังกลับไปจัดทำรายละเอียดการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2554 ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 1.65 ล้านล้านบาทให้ชัดเจน โดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้จากภาษีนิติบุคคลธรรมดา เนื่องจากเห็นว่าภาคเอกชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่งพ้นภาวะบาดเจ็บจากวิกฤติเศรษฐกิจ แม้ว่าจะดีขึ้นในปี 2553 แต่เห็นว่าควรเปิดโอกาสให้ได้รักษาบาดแผลบ้าง ไม่ใช่รีดภาษีจนไม่มีเงินเหลือไว้รักษาบาดแผล.

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: