| ศูนย์อนุรักษ์ที่ 5 จัดสัมมนานำเสนอแผนยุทธศาสตร์  3 ปีร่วมกับเครือข่ายฯ จัดการทรัพยากร
 18  ม.ค.53   เมื่อวันที่ 18  ม.ค.53  เวลา 09.30 น. ที่ห้องจามจุรี  ร.ร.ภูเก็ตเมอร์ลิน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต   กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดสัมมนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ  เอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และชุมชนชายฝั่ง  ในการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ครั้งที่ 17  โดยนายไพทูล แพนชัยภูมิ  ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ฯที่ 5  จ.ภูเก็ต  กล่าวรายงาน และนายวรรณเกียรติ  ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล  และป่าชายเลน เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา การจัดสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและร่วมกันจัดทำแผนยุทธศาสตร์  3 ปี  ตลอดจนกำหนดแนวทางความร่วมมือในการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันอย่างยั่งยืน  โดยมีองค์กรร่วมจัดงานสัมมนาฯ  ประกอบด้วยองค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน    มูลนิธิอันดามัน  มูลนิธิองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ   ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชน ชุมชน ผู้นำ  องค์กรพัฒนาเอกชน และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน ประกอบด้วยกลุ่มประมงพื้นบ้าน กลุ่มอนุรักษ์  ประชาชนทั่วไป การสัมมนาจัดระหว่างวันที่ 18-19 ม.ค. โดยมีผู้สนใจเข้าร่วม  200 คน
  ในการนำเสนอปัญหาสถานการณ์ทรัพยากรชายฝั่งเริ่มจาก  จ.สตูลมีปัญหาเรื่องอวนลาก ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการกำหนดแนวเขตหวงห้ามอวนลากอวนรุนเข้ามาทำการประมงในบริเวณ  5,400 เมตรแล้ว แต่มีเรืออวนลากคู่เข้ามาทำประมงภายในเขตดังกล่าว  และยังทำลายเครื่องมือประมงพื้นบ้านของชาวบ้าน เช่น ลอบปลาเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นเมื่อวันที่  11 ม.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจึงเดินทางไปพบผู้ว่าราชการ  จ.สตูล เพื่อผลักดันแก้ไขเรื่องแนวเขตหวงห้ามเรืออวนลากอวนรุน 5,400 เมตร
 ส่วน จ.ตรัง ประสบปัญหาการล่าพะยูนจากเครื่องมือเบ็ดราวไว  เพื่อนำพะยูนไปขาย มีการจัดทำเขตทะเล 4 บ้าน  ในพื้นที่ประมาณ  24,000 ไร่   และกำหนดกฎระเบียบหวงห้ามการทำประมงด้วยเบ็ดราวไว  เพราะการทำประมงด้วยเบ็ดราวไวจะทำลายพะยูน  แต่กลับมีเรือประมงจากจังหวัดปัตตานีเข้ามาทำประมงด้วยเบ็ดราวไว  หลายครั้ง ทางองค์กรชาวประมงพื้นบ้านเข้าไปตักเตือนแล้วและชุดเฉพาะกิจของบ้านน้ำราบและใบไม้เขียวได้เข้าจับกุม  แต่ก็มีการปล่อยตัวคนผิดไป  จากการจัดเก็บข้อมูลของกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง   พบว่าเรืออวนรุนเพิ่มขึ้นและทำลายเครื่องมือประมงพื้นบ้านจำนวนมาก  การระเบิดปลาลดน้อยลง  เครื่องมือไซพับเพิ่มขึ้นจำนวนมาก   มีความเสียหายกับอวนปูอย่างรุนแรง  มีสัตว์อนุรักษ์พะยูนและโลมาตาย  จำนวนหลายตัว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการไขปัญหา สุดท้าย จ.พังงา ได้รับผลกระทบเรื่องโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ  ที่ผ่านมามีการพูดถึงในข้อดีของการพัฒนา   เช่น  เศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนจะมีอาชีพ  มีเงิน ในความเป็นจริงประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว  ส่วนในวันที่ 19 ม.ค.  เป็นการนำเสนอแผนยุทธศาสตร์  3 ปี  ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  โดย ดร.ธนา  ยิ่งเจริญ   กองแผนงาน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อระความคิดเห็นการทบทวนการ จัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการโครงการของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อไป |