| กลุ่มรักษ์อ่าวประจวบคีรีขันธ์  ร่วมเวทีการประชุมกรณีพิพาทเรือคราดหอยลายประมงพื้นบ้านเมือง ๓ อ่าว  ยื่นข้อเสนอต่อการทำประมงพาณิชย์อ่าวประจวบคีรีขันธ์
 ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๒  วันนี้(๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๒) เวลา ๐๙.๐๐  กลุ่มรักษ์อ่าวประจวบคีรีขันธ์ จำนวน ๓ หมู่บ้านประกอบด้วย บ้านตาม่องล่าย  บ้านอ่าวน้อย และบ้านคั่นกระได พร้อมด้วยพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านตั้งแต่ อ.หัวหิน  จนถึง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวนกว่า ๑๐๐ คน  และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัญหาโดยตรง เช่น  สำนักงานประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานประมงอำเภอ หน่วยปราบปรามประมงทะเลอ่าวน้อย  กองบังคับการตำรวจน้ำ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับเชิญจากสำนักงานประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ในการเข้าร่วมในเวทีรับฟังเพื่อการแก้ไขกรณีพิพาทระหว่างเรือประมงคราดลาย ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์  ที่เกิดขึ้น
                 ทั้งนี้  กลุ่มรักษ์อ่าวประจวบคีรีขันธ์ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะเล่าสถานการณ์ถึง ผลกระทบที่ได้รับและการหาทางออกในการเสนอปัญหาร่วมกัน  และได้นำข้อเสนอจากเวทีการจัดการทรัพยากรชายฝั่งโดยชุมชน  โดยกลุ่มรักษ์อ่าวประจวบคีรีขันธ์  เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ยื่นหนังสือต่อนายอภินันท์  จันทรังษี รองผู้ราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งทางกลุ่มรักษ์อ่าวประจวบคีรีขันธ์  ได้มีข้อสรุปในการจัดการทรัพยากรในพื้นที่อ่าวประจวบคีรีขันธ์ ดังต่อไปนี้ 
                            กำหนดขนาดตาอวนคลุมท้องลอบปูม้าให้มีขนาด  ๒.๕ นิ้ว  และการผลักดันให้เครื่องมือลอบปูม้าเป็นเครื่องมือที่ผิดกฎหมายและ ทำลายล้าง 
ผลักดันให้อวนดำหรืออวนล้อมเป็นเครื่องมือผิดกฎหมายและทำลายล้าง 
มีมาตรการที่ชัดเจนในการผลักดันให้เรือประมงพาณิชย์และเรือที่มีเครื่องมือทำลายล้างให้ออกไปทำการประมงนอกเขต ๕,๔๐๐  เมตร 
กำหนดพื้นที่เขตอนุรักษ์ที่ชัดเจนเรื่องการขยายเขต  ๓,๐๐๐ เมตร เป็น ๕,๔๐๐  เมตร  ให้มีผลในทางปฏิบัติ                  ทั้งนี้  ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบและลงบันทึกไว้การประชุม  เพื่อการพิจารณาต่อไป  
 |