homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 
 

ผู้ยิ่งใหญ่

เหยี่ยวถลาลม มติชนรายวันวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552   หน้า 12

นายณรงค์ เต็มวิจิตร อดีตนายอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ถูกศาลพิพากษาจำคุก 7 ปี

คดีนี้ เริ่มจากมีคนที่เป็นนายหน้ากว้านหาที่ดินมาให้นายณรงค์กับนายเจิมศักดิ์ เสรีวัฒนะ เจ้าพนักงานที่ดิน (หลบหนี) ออกหนังสือรับรองทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ระบุชื่อนายด้าเอ็ม นาวีว่อง (เสียชีวิตแล้ว) ทั้งที่รู้ว่าที่ดินแปลงนั้นมีเจ้าของ

จึงเป็นเท็จ และเจตนาทุจริต !

เมื่อได้ น.ส.3 ก. แล้ว นายด้าเอ็มก็เอาที่ดินแปลงนั้นขายให้กับ ตัน เต็ก ไฮ้ หรือ "วาเลนติโน" ผู้ยิ่งใหญ่ที่มาตั้งรกรากสร้างอิทธิพลย่านพังงา ภูเก็ต

ยังมีอีก 5 คดี ที่อดีตนายอำเภอเกาะยาวคนนี้เป็นจำเลย พฤติกรรมเหมือนกัน ทั้งยังพัวพันโยงใยไปถึง "วาเลนติโน"

ส่วนนายวาเลนติโนนั้น เมื่อได้ที่ดินราคาถูกแสนถูกมาแล้ว ก็นำไปจำนองกับธนาคารของนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ด้วยราคาแพงแสนแพง

ประเทศนี้น่าอยู่ไหมครับ

"วาเลนติโน" เอาที่ดินไร้ราคาไปวางกับธนาคารแล้วสามารถเอาเงินออกมาได้ทีละเป็นพันล้านบาท !!

"วาเลนติโน" เพื่อนรักของ "เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์" จึงขนเงินเพลินจนเป็นหนี้แบงก์ถึง 3,000 ล้านบาท

ขบวนการทุจริตนี้ลอยนวลมานาน กระทั่ง นายณรงคอดีตนายอำเภอเกาะยาว ตกเป็นจำเลย และถูกศาลพิพากษาจำคุก

ถือเป็นคดีตัวอย่างได้สำหรับ "วาเลนติโน" !

"วาเลนติโน" ก่อคดีทั้งสิ้น 24 เรื่อง "หมดอายุความ" ไปเสียครึ่งหนึ่ง เพราะความไม่เอาไหนของเจ้าหน้าที่รัฐ

และจนถึงวันนี้ รัฐยังเอาตัว "วาเลนติโน" มาดำเนินคดีไม่ได้สักเรื่อง !

ทั้งที่เคยมีอัยการบางคนไปนั่งกินข้าวด้วย

ทั้งที่ "วาเลนติโน" ในฐานะผู้ต้องหา เดินขึ้นไปพบอัยการบางคนถึงสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก

สกปรก เหลวไหล และเลวร้ายสิ้นดี

วาเลนติโน หรือตัน เต็ก ไฮ้ เจ๊กต่างชาติ จึงได้กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ !?!!

 

เป็นอัยการได้ไง

เหยี่ยวถลาลม  มติชนรายวัน   วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552  หน้า 12

จะเรียงลำดับ "คดีวาเลนติโน" ให้ท่านผู้อ่านพิจารณาอีกครั้ง เพื่อได้เห็น "ภาพ" การทำงานของอัยการฝ่ายคดีพิเศษ

จากนั้นท่านลองใคร่ครวญ แล้วแสดงความเห็นเองเถอะครับ

คดีบุกรุกเกาะยาว จ.พังงา มีผู้ต้องหา 3 คน คือ นายตัน เต็ก ไฮ้ หรือวาเลนติโน นางสุดใจ คีรีพอน และนายเชาวพงศ์ เมฆารักษ์กุล ผู้แทนบริษัท จี้เลี้ยงการประมงภูเก็ต จำกัด

วันที่ 22 พฤษภาคม 2551 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีความเห็น "สั่งฟ้อง" ผู้ต้องหา แล้วส่งสำนวนให้สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4

ผ่านไปปีกว่า !

และในเวลาอันกระชั้นชิดนั้น

วันที่ 22 กรกฎาคม 2552 สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 แจ้งคำสั่ง "ไม่ฟ้อง" ถึงดีเอสไอ

วันที่ 27 กรกฎาคม 2552 ดีเอสไอทำ "ความเห็นแย้ง" ถึงอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กับ อัยการสูงสุด

วันที่ 29 กรกฎาคม 2552 นายธีระชัย เอนกจำนงพร รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ปฏิบัติราชการแทน นายเศกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีหนังสือถึงดีเอสไอ กลับลำ "สั่งฟ้อง"

พร้อมกับแจ้งให้ "ดีเอสไอ" ไปติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาส่งอัยการในวันที่ 31 กรกฎาคม เพื่อยื่นฟ้องศาลให้ทันภายในกำหนดอายุความ วันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ หยุดราชการ อายุความจึงขยายไปถึงวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม

ดีเอสไอแย้งไปว่า อัยการนับ "อายุความ" คดีนี้ผิด !

ที่ถูกควรเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2549 อายุความของคดีนี้มี 15 ปี จึงควรขาดอายุความในวันที่ 30 มีนาคม 2564

อัยการนับอายุความคดีนี้ผิดไปเกือบ 12 ปี !

เมื่อเรื่องถูกนำเข้าสู่ "บอร์ดคดีพิเศษ" ตัวแทนอัยการยอมรับว่า นับอายุความ "ผิด" ไปแล้ว

คำว่า "คดีขาดอายุความ" หมายถึง สิทธิในการฟ้องคดีถูกระงับ ผู้ต้องหาทั้งหมดจะลอยนวล

ผู้เป็น "ทนายแทนแผ่นดิน" ไม่แม่นกระทั่งการนับอายุความเช่นนี้ จะทำอย่างไรดี !?!!

 

คดีวาเลนติโน

เหยี่ยวถลาลม   มติชนรายวัน   วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552   หน้า 12

นายตัน เต็กไฮ้ หรือวาเลนติโน ผู้ต้องหาคดีบุกรุกยึดครองที่บนเกาะยาว จังหวัดพังงา ไม่ใช่คนชั้นธรรมดา

การดำเนินคดีแก่นายวาเลนติโนจึงย่อมเป็นไปท่ามกลางความยุ่งยาก !

คณะกรรมการคดีพิเศษ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ "ดีเอสไอ" สอบสวน พร้อมกับให้พนักงานอัยการเข้าร่วมตั้งแต่ต้น

ดีเอสไอกับอัยการร่วมงานกันมาตั้งแต่ต้น ไฉนเมื่อถึงปลายทาง "อัยการคดีพิเศษ" ไปทางหนึ่ง "ดีเอสไอ" ไปอีกทางหนึ่ง

ดีเอสไอ ส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการคดีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2551 พร้อมความเห็น "สั่งฟ้อง" วาเลนติโนกับพวกรวม 3 คน

ทั้งที่ร่วมสอบสวนมาตั้งแต่ต้น "อัยการฝ่ายคดีพิเศษ" กลับปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปปีกว่า

ถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 เพิ่งจะแจ้งว่า "สั่งไม่ฟ้อง" !

พร้อมๆ กับกำชับว่า ในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม คดีจะ "ขาดอายุความ"

หมายความว่า หมดสิทธินำคดีอาญาไปฟ้องต่อศาล

วันที่ 27 กรกฎาคม ดีเอสไอจึงมี "ความเห็นแย้ง" ที่อัยการไม่ฟ้องผู้ต้องหา พร้อมกับแย้ง "วิธีนับอายุความ" ของอัยการ โดยเห็นว่า คดีนี้ควรนับอายุความตั้งแต่ "วันสุดท้ายที่ผู้ต้องหายังถือครองที่ดิน" นั่นคือ วันที่ 30 มีนาคม 2549

คดีมีอายุความ 15 ปี ดังนั้น "อายุความ" ที่อัยการว่าขาดลงในวันที่ 2 สิงหาคม 2552 ก็ควรจะเป็นวันที่ 30 มีนาคม 2564

เรื่องทั้งหมด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม "รับทราบ" แล้วถึงกับตระหนกกับการ "ทำหน้าที่" ของอัยการ

นายวาเลนติโนกับพวกได้รับการประกันตัวในชั้นอัยการ

แต่อัยการกลับทำหนังสือให้ "ดีเอสไอ" ไปตามจับกุมนายวาเลนติโนกับพวกมาส่งให้อัยการภายใน 4 วัน

น่าเจ็บปวดยิ่งไปกว่านั้นคือ ขณะที่ "ดีเอสไอ" กำลังไปควานหาตัววาเลนติโนอยู่นั้น

"วาเลนติโน" ไปนั่งกินข้าวกับอัยการบางคน !?!!

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: